แบตเตอรี่อะไร ควรตรวจอะไร?

Last updated: 29 เม.ย 2565  |  3522 จำนวนผู้เข้าชม  | 

แบตเตอรี่อะไร ควรตรวจอะไร?

แบตเตอรี่อะไร ควรตรวจอะไร?

ขอเข้าเรื่องเกี่ยวกับ CCA อีกสักครั้งครับ เนื่องจากมีผู้สนใจสอบถามเข้ามาจำนวนมากว่าต้องการจะใช้แบตเตอรี่ Deep Cycle สำหรับงานโซล่าเซลล์ หรืองานรถยก รถไฟฟ้า และสอบถามมาว่าค่า CCA ของแบตเตอรี่ Deep Cycle ควรเป็นเท่าไหร่??

ก่อนอื่นขอรื้อฟื้นความเข้าใจก่อนว่า ค่า CCA คืออะไร

CCA คือค่า Cold Cranking Amps หรือค่ากำลังสตาร์ทที่แบตเตอรี่สามารถจ่ายได้ ณ อุณหภูมิ “ต่ำ” โดยทั่วไปอ้างอิงที่ -18°C

ต้องขอย้ำนะครับ CCA คือค่า “กำลังสตาร์ท” หรือ “Cranking” ดังนั้นจะเหมาะสำหรับทดสอบแบตเตอรี่สำหรับงาน “สตาร์ทเครื่องยนต์” เท่านั้น เช่น แบตเตอรี่รถยนต์ งานเครื่อง Generator หรือ Fire Pump รวมถึงงานประเภทอเนกประสงค์เช่น Marine หรือการใช้งานบนเรือที่ใช้สตาร์ทเครื่องยนต์และต้องจ่ายไฟเวลาที่เครื่องยนต์หยุดทำงาน เป็นต้น

ดังนั้น การใช้งานแบตเตอรี่ประเภทอื่นๆ อย่าง Deep Cycle หรือ Sealed Lead-Acid สำหรับรถไฟฟ้าหรืองานสำรองไฟ ทางผู้ผลิตแบตเตอรี่จึงไม่ได้มีการอ้างอิงค่า CCA มาให้

สำหรับการตรวจวัดแบตเตอรี่ที่ใช้งานมาแล้วและต้องการตรวจสอบว่ายังใช้งานได้หรือไม่ การวัดค่า CCA ในแบตเตอรี่ก็ยังไม่สามารถตอบได้ว่าแบตเตอรี่เสียหรือไม่ (ดังจะเห็นได้ว่า มีการนำแบตเตอรี่รถยนต์เก่ามา “ทำสาว” แล้วนำมาใช้กับงานโซล่าเซลล์ ซึ่งแบตเตอรี่พวกนี้หากวัดค่า CCA ก็จะแสดงค่าว่า “เสีย” หรือ “Replace Battery” และใช้งานสตาร์ทรถยนต์ไม่ไหวแล้ว)

หากต้องการตรวจเช็คแบตเตอรี่ประเภท Deep Cycle หรือแบตเตอรี่สำรองไฟ Storage Batteries จึงควรตรวจสอบดังนี้ (สำคัญ: ก่อนทดสอบควรอัดไฟให้เต็มก่อน)

-       ตรวจค่าโวลท์ (Volt) ของแบตเตอรี่ และจำเป็นมากที่จะต้องตรวจวัดเมื่อแบตเตอรี่ได้รับการอัดไฟเต็มเสียก่อน

-       ตรวจค่าความต้านทาน (Ohm) ของแบตเตอรี่ โดยค่าโอห์มยิ่งสูงหมายถึงแบตเตอรี่มีความต้านทานภายในสูง คือจ่ายไฟได้ไม่ดี

-       ถ้ามีเครื่องทดสอบแบตเตอรี่ชนิด Load Tester จะเป็นการทดสอบที่ตรงที่สุดสำหรับแบตเตอรี่ประเภท Deep Cycle

-       ถ้าเป็นแบตเตอรี่ประเภทต้องเติมน้ำกลั่น ควรตรวจวัดค่า ถ.พ. ของอิเล็กโทรไลต์ในทุกๆ เซลและค่าที่วัดได้ไม่ควรจะต่างกันเกินกว่า 0.050 ระหว่างเซลที่สูงสุดและต่ำสุด

สำหรับรายละเอียดการตรวจวัดแบตเตอรี่สามารถค้นดูได้จากโพสต์ก่อนๆ นะครับ

สุดท้ายนี้ อยากจะขอย้ำนะครับว่าการใช้งานแบตเตอรี่ให้คุ้มค่าและทนทานที่สุด ควรจะหมั่นตรวจสอบแบตเตอรี่เป็นระยะ หลายๆ ครั้งปัญหาเล็กๆ ที่เจอสามารถแก้ไขได้ง่ายๆ แต่หากปล่อยให้ปัญหาหมักหมมไปเรื่อยๆ ปัญหาเล็กๆ นั้นจะกลายเป็นปัญหาใหญ่และสุดท้ายก็จะกลายเป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ไป.

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้